ซีรีย์แนว ไซไฟ-ลึกลับ จาก Netflix ที่พาคุณย้อนยุคไปสู่ปี 80s กับเรื่องราวของเด็กกลุ่มหนึ่งที่ค้นพบความลับเกี่ยวกับโลกกลับด้าน (The Upside Down) และพลังเหนือธรรมชาติของเด็กสาวชื่อ “อีเลเว่น”
นอกจากการเล่าเรื่องที่ชวนติดตามแล้ว Stranger Things ยังเป็นซีรีย์ที่มีเอกลักษณ์ด้วยบรรยากาศของยุค 80s และดนตรีประกอบที่ทำให้แฟนๆ รู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่โลกของตัวละครอย่างแท้จริง
2. Breaking Bad – เบรกกิ้ง แบด
ซีรีย์แนว อาชญากรรม-ดราม่า ที่ติดอันดับยอดเยี่ยมตลอดกาล เรื่องราวของครูเคมีที่กลายเป็นเจ้าพ่อค้ายาเพราะปัญหาทางการเงิน ซีรีย์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นและการหักมุมที่คาดไม่ถึง
Breaking Bad ไม่ได้มีแค่ฉากแอคชั่นสุดมันส์ แต่ยังมีการพัฒนาเรื่องราวของตัวละครที่ลึกซึ้ง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของ Walter White จากครูสอนเคมีธรรมดาไปเป็นนักธุรกิจด้านมืด
3. Game of Thrones – เกม ออฟ โธรนส์
หนึ่งในซีรีย์ที่มีแฟนคลับมากที่สุดในโลก กับเรื่องราวของการแย่งชิงบัลลังก์เหล็กในดินแดนเวสเทอรอส เต็มไปด้วยสงคราม การทรยศ และมังกรสุดอลังการ
นอกจากนี้ยังมีตัวละครที่น่าจดจำอย่าง Tyrion Lannister, Daenerys Targaryen และ Jon Snow ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องมีความซับซ้อนและน่าติดตามมากขึ้น
4. The Witcher – เดอะ วิทเชอร์
ซีรีย์แนวแฟนตาซีที่สร้างจากเกมชื่อดัง เรื่องราวของ “เกรอลท์แห่งริเวีย” นักล่าปีศาจที่ต้องเผชิญกับอันตรายและชะตากรรมที่เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้
The Witcher มีฉากแอคชั่นที่เข้มข้นและโครงเรื่องที่สลับซับซ้อน พร้อมตัวละครที่มีมิติอย่าง Geralt, Yennefer และ Ciri
5. The Mandalorian – เดอะ แมนดาโลเรียน
ซีรีย์ภาคแยกจากจักรวาล Star Wars ที่เล่าเรื่องของนักล่าค่าหัวและการผจญภัยกับตัวละครสุดน่ารัก “เบบี้โยดา”
ซีรีย์นี้ได้รับคำชมอย่างมากในเรื่องของงานสร้าง การเล่าเรื่องที่กระชับ และการแสดงของ Pedro Pascal ที่ทำให้ตัวละคร Mandalorian มีเสน่ห์และความน่าติดตาม
6. Sherlock – เชอร์ล็อก โฮล์มส์
ซีรีย์แนวสืบสวนจาก BBC ที่เล่าเรื่องของนักสืบอัจฉริยะ เชอร์ล็อก โฮล์มส์ และผู้ช่วยของเขา ดร.วัตสัน ในรูปแบบยุคปัจจุบัน
การตีความตัวละครใหม่ของ Benedict Cumberbatch ทำให้ Sherlock กลายเป็นซีรีย์ที่มีเสน่ห์และน่าติดตามอย่างมาก